Fastcommerz

สร้างแผนการตลาดที่มีคุณภาพด้วยการทำ Marketing funnel

Marketing Funnel
Marketing Funnel

คุณเคยสังเกตไหมว่า บางครั้งการขายสินค้าออนไลน์กว่าจะประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงแม้ว่าจะพยายามยิงแอดแล้ว หรือมีผู้ติดตามที่มากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถสร้างยอดขายได้เท่าที่ต้องการ เพราะในโลกออนไลน์การแข่งขันทางธุรกิจสูงมาก มีผู้ขายสินค้าหน้าใหม่เข้ามาเรื่อยๆ และผู้ขายสินค้าหน้าเก่าที่เลิกกิจการไปเพราะยอดขายไม่ประสบความสำเร็จ

ดังนั้นเจ้าของธุรกิจที่อยากขายสินค้าออนไลน์ควรจะมีกลยุทธ์ทางการตลาดมาเป็นเครื่องมือที่จะช่วยผลักดันในการสร้างยอดขายให้ได้มากขึ้น ซึ่งวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดดีๆ อย่าง Marketing Funnel มาเล่าให้คุณฟัง โดย Marketing Funnel จะช่วยให้คุณดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างเป็นระบบ และในกระบวนการสุดท้ายคุณจะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ เพื่อให้คุณสามารถเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้จริง

สารบัญบทความ

Marketing funnel คืออะไร

Marketing Funnel คืออะไร หากแปลตรงตัวก็จะหมายถึง การตลาดทรงกรวย ซึ่งที่จริงแล้วมันก็คือ กระบวนการทางการตลาดที่ถูกออกแบบมาเป็นรูปทรงกรวย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ และได้ลูกค้าตัวจริงของธุรกิจ โดยจะเริ่มตั้งแต่กระบวนการโน้มน้าวกลุ่มเป้าหมายไปจนถึงกระบวนการสร้างยอดขาย หรือปิดดีลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น 

การใช้กลยุทธ์ Marketing Funnel จะช่วยให้คุณดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คุณต้องการได้อย่างมีระบบโดยขั้นตอนการทำ Marketing Funnel จะเริ่มจาก Awareness ให้ลูกค้ารับรู้ หรือรู้จักแบรนด์ของคุณ จากนั้นก็ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ Interest และลูกค้าก็จะเริ่มพิจารณาสินค้าของคุณ หลังจากนั้นก็ตัดสินใจซื้อ และกระบวนการสุดท้ายต้องทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้าของคุณอีกครั้ง

โดยแต่ละขั้นตอนของ Marketing Funnel จะโน้มน้าว และนำลูกค้าที่สนใจซื้อสินค้าของคุณจริงๆ เข้ามาหาคุณผ่านกระบวนการทางการตลาดอย่างมีระบบ ซึ่งกลยุทธ์นี้อาจสามารถช่วยให้คุณเปลี่ยนลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่ไม่สนใจให้หันมาสนใจสินค้าของคุณเพิ่มก็ได้ ทำให้คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย และสร้างกลุ่มลูกค้า

Marketing funnel มีข้อดีอย่างไร

การทำการตลาดออนไลน์อย่างมีระบบโดยใช้กลยุทธ์ Marketing Funnel จะช่วยให้การใช้งบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์ของคุณไม่สิ้นเปลือง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นถ้าหากคุณนำกลยุทธ์ Marketing Funnel มาปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ดี คุณก็จะสามารถเพิ่มยอดขาย และได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายตัวจริงเพิ่มขึ้น โดยข้อดีของการทำ Marketing Funnel มีดังต่อไปนี้

ข้อดีของ Marketing Funnel

ช่วยในการตัดสินใจจัด Promotion

การทำการตลาดอย่าง Marketing Funnel จะช่วยทำให้คุณได้รู้จัก และเข้าใจลูกค้าของคุณมากขึ้น โดยคุณสามารถวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าผ่านการเยี่ยมชมสินค้า ยอดการสั่งซื้อ หรือการลงทะเบียนข้อมูลติดต่อกลับ เป็นต้น ซึ่งตรงนี้คุณสามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อจัดโปรโมชั่น และกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้น

ประหยัดงบประมาณ และค่าใช้จ่ายสำหรับการตลาด

Marketing Funnel คือการสร้างกระบวนการทางการตลาดอย่างมีระบบ เพราะฉะนั้นคุณจะเข้าใจว่าในขั้นตอนแต่ละกระบวนการคุณควรจะโปรโมทสินค้าของคุณอย่างไร เพื่อโน้มนาว และดึงดูดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการ ซึ่งถ้าหากคุณวิเคราะห์แผนการตลาดที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอนได้อย่างตรงจุด คุณก็จะไม่เสียงบประมาณทางการตลาดที่บานปลาย และยังได้ประสิทธิภาพที่สามารถสร้างยอดขายให้เติบโตได้

ทำให้ใช้กลยุทธ์ในการทำการตลาดได้อย่างถูกต้อง

ถ้าหากคุณไม่รู้ว่าควรใช้การโปรโมท หรือโน้มน้าวใจลูกค้าแบบไหน Marketing Funnel จะช่วยให้คุณเข้าใจแต่ละกระบวนการทางการตลาดตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการตัดสินใจซื้อสินค้า รวมถึงทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอีก ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าในแต่ละชั้นของ Funnel คุณควรเลือกใช้กลยุทธ์ทางการตลาดแบบไหนเพื่อนำลูกค้าไปสู่จุดหมายปลายทางที่คุณต้องการ 

ปิดการขายได้ง่ายขึ้น

เมื่อคุณนำพาลูกค้าผ่านขั้นตอนต่างๆ ของ Marketing Funnel มาแล้ว ลูกค้าจะรู้สึกว่าสินค้าของคุณสามารถแก้ปัญหา และตอบโจทย์ความต้องการของเขาได้ เพียงแค่คุณกระตุ้นการซื้อของลูกค้าด้วยโปรโมชั่น หรือแคมเปญต่างๆ ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าถ้าไม่ซื้อสินค้าของคุณตอนนี้ ลูกค้าอาจเกิดความรู้สึกเสียดายได้ในภายหลัง ซึ่งจะช่วยให้คุณดูเหนือการสินค้าคู่แข่ง และสามารถปิดดีลได้ง่ายขึ้น 

มีส่วนช่วยในการเพิ่มยอดขาย

Marketing Funnel สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง เพราะจะช่วยคัดกรองลูกค้าที่สนใจสินค้าของคุณจริงๆ ผ่านกระบวนการ Funnel ในแต่ละขั้นตอน เปรียบเสมือนคุณนำพาลูกค้าไปสู่จุดหมายที่คุณต้องการคือ ตัดสินใจซื้อสินค้าในขั้นตอนการปิดดีล โดยเมื่อลูกค้าถูกโน้มน้าวมาเรื่อยๆ จนถึงกระบวนการ Cnversion โอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อก็สูงเช่นกัน

รักษาลูกค้าเก่า

ในกระบวนการสุดท้ายของการทำ Marketing Funnel คือ การรักษาลูกค้าเดิม และกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีก เมือคุณสามารถโน้มน้าวกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้คุณก็สามารถทำให้พวกเขาเหล่านั้นกลับมาซื้อซ้ำได้อีก ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่น หรือการส่งอีเมลล์ (Email marketing) เป็นต้น เพราะเมื่อพวกเขาเหล่านั้นเป็นลูกค้าของคุณแล้ว คุณก็จะมีข้อมูลในการซื้อ และข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับลูกค้าที่สามารถนำมาวิเคราะห์ และทำการตลาดเพื่อกระตุ้นการซื้อซ้ำได้อีก 

Marketing funnel มีขั้นตอนอย่างไร

หากอยากให้การขายสินค้าออนไลน์ประสบความสำเร็จด้วยการทำ Marketing Funnel คุณจะต้องรู้ และเข้าใจในแต่ละขั้นตอนของการใช้กลยุทธ์นี้ ซึ่งจะช่วยโน้มน้าวให้ลูกค้าสนใจแบรนด์สินค้า และตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ผ่านกระบวนการทั้ง 5 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

ขั้นตอน Awareness

ขั้นตอนแรกคือ การทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์สินค้าของคุณก่อน ไม่ว่าคุณจะใช้การโปรโมทด้วยวิธีใดก็ตามคุณจะต้องทำให้ลูกค้าเกิดการยอมรับในสินค้า หรือแบรนด์ของคุณ และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า สินค้าของคุณสามารถช่วยแก้ปัญหา และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้

ขั้นตอน Interest

เมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักแบรนด์สินค้าของคุณแล้ว ขั้นตอนที่สองที่คุณควรจะทำคือ การทำให้กลุ่มลูกค้าของคุณรู้สึกสนใจ และไว้วางใจในแบรนด์สินค้าของคุณ คุณอาจสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ผ่านการสร้างคอนเท้นต์ หรือการรีวิวสินค้าต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ และดึงดูดให้ลูกค้าสนใจสินค้าของคุณมากขึ้น

ขั้นตอน Consideration

หลังจากที่ลูกค้าเริ่มเกิดความเชื่อมั่นในสินค้าของคุณแล้ว หากลูกค้าจำเป็นจะต้องเลือกซื้อสินค้าประเภทเดียวกันกับสินค้าของคุณ ลูกค้าจะเริ่มพิจารณาสินค้าของแบรนด์คุณ และแบรนด์อื่นพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็คือ คุณจะต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า แบรนด์ของคุณก็น่าสนใจไม่แพ้สินค้าของแบรนด์อื่นๆ เลย

ขั้นตอน Conversion

ในขั้นตอนนี้อาจจะเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำกลยุทธ์ Marketing Funnel เลยก็ได้ เพราะเป็นขั้นตอนการปิดดีลที่คุณจะต้องกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ โดยคุณอาจจะใช้การ กระตุ้นด้วยโปรโมชั่น หรือทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าถ้าลูกค้าได้ซื้อสินค้าของคุณจะต้องคุ้มค่า และลูกค้าจะไม่เสียใจภายหลังแน่นอน

ขั้นตอน Retention

และในขั้นตอนสุดท้ายที่ใครหลายคนอาจมองข้ามคือ การรักษาลูกค้าเดิมของคุณไว้แล้วทำให้พวกเขาเหล่านั้นอยากกลับมาซื้อสินค้าของคุณอีกซ้ำๆ ซึ่งในกระบวนการสุดท้ายถ้าคุณสามารถดูแลลูกค้าเดิมได้ดี มีการกระตุ้นให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำได้อีก ยอดขายของคุณก็จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีฐานลูกค้าเก่าที่คอยอุดหนุน และลูกค้าใหม่ที่เข้ามาหาคุณจากกระบวนการโน้มน้าวอย่างมีระบบของ Marketing Funnel

Marketing funnel ในแต่ละประเภทธุรกิจ

ที่จริงแล้วการใช้กลยุทธ์ Marketing Funnel สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ ซึ่งวันนี้เราจะขอพูดถึงการใช้ Marketing Funnel ในธุรกิจประเภท B2B และ B2C ว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง 

ความแตกต่างของ Marketing Funnel ในแต่ละธุรกิจ

Marketing funnel ประเภทธุรกิจ B2B

ธุรกิจประเภท B2B (Business to Business) คือ การซื้อขายสินค้าระหว่างธุรกิจด้วยกัน ซึ่งความน่าเชื่อถือของตัวบริษัท หรือองค์กรที่เป็นคู่ค้าถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ

  • Awareness : สร้างการรับรู้ของแบรนด์โดยผ่านการโปรโมทผ่านเว็บไซต์ หรือการยิงแอดเป็นต้น เพื่อค้นหากลุ่มธุรกิจเป้าหมายที่คุณต้องการให้มาเป็นลูกค้า
  • Interest : สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการจัดกิจกรรมที่ให้ลูกค้ามีส่วนร่วม หรือทำสื่อวิดีโอ หรือสร้างเนื้อหาที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพในธุรกิจสินค้าของคุณ 
  • Consideration : เข้าถึงบุคคลในองค์กรที่มีอำนาจในการตัดสินใจ และนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
  • Conversion : สร้างข้อเสนอที่ดีให้กับลูกค้าว่าถ้าหากซื้อสินค้าจะได้รับการบริการ และความคุ้มค่าอย่างไรบ้าง นอกจากนี้คุณสามารถแสดงให้เห็นได้ว่า ธุรกิจของคุณสามารถผลิต หรือส่งสินค้าได้ตามที่ Partner ของคุณต้องการ
  • Retention : สามารถนำระบบ CRM มาใช้เพื่อบริหารความสัมพันธ์ และดูแลลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้า และใช้บริการของคุณอีกครั้ง 

Marketing funnel ประเภทธุรกิจ B2C

ธุรกิจประเภท B2C (Business to Customer) คือ ธุรกิจที่ขายสินค้าโดยตรงกับลูกค้า หรือผู้บริโภคโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ ซึ่งจะทำให้วิธีการใช้ Marketing Funnel แตกต่างจากการนำมาใช้กับธุรกิจแบบ B2B นิดหน่อย

  • Awareness : ใช้การโฆษณา และการยิงแอดเพื่อโปรโมทสินค้า อาจทำแคมเปญกดไลค์ กดแชร์เพื่อสร้างการรับรู้ และการเป็นที่รู้จักมากขึ้น 
  • Interest : สร้างคอนเทนต์ หรือบทความที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสินค้า หรือคำแนะนำต่างๆ ในการเลือกซื้อสินค้า เป็นต้น
  • Consideration : ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าของคุณมีจุดเด่น และเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากสินค้าแบรนด์อื่นๆ หรือคุณอาจใช้ Influencer มาช่วยโปรโมทสินค้าเพื่อโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
  • Conversion : กระตุ้นการซื้อของลูกค้าด้วยการจัดโปรโมชั่น หรือแคมเปญที่แสดงถึงความคุ้มค่า เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าถ้าไม่ซื้อตอนนี้อาจเสียผลประโยชน์ หรือถ้าไม่ซื้ออาจต้องรู้สึกเสียดายแน่นอน เป็นต้น
  • Retention : มีการติดต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นทางอีเมล หรือ SMS เป็นต้น มีการส่งการ์ดวันเกิด หรือแจ้งข่าวโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำ 

Marketing funnel มีเทคนิคการทำอย่างไร

เมื่อคุณพอทราบเกี่ยวกับกลยุทธ์ Marketing Funnel แล้ว เรามาดูกันว่าต้องใช้เทคนิคอะไรบ้างในการทำกลยุทธ์นี้ โดยเทคนิคที่เราแนะนำมีดังต่อไปนี้

การวางแผนโปรโมท

การโปรโมทสินค้าอาจทำได้หลายวิธีผ่านสื่อโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คเพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น การทำ SEO เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาเว็บไซต์ของคุณบน Google เจอผ่าน Keyword หรือจะเลือกยิงแอดก็ได้ ซึ่งคุณสามารถเลือกทำได้ทั้ง Facebook Tiktok หรือโซเชี่ยลมีเดียอื่นๆ เป็นต้น 

นอกจากนี้คุณอาจเลือกใช้ Influencer ในการโปรโมทสินค้าในขั้นตอนนี้ด้วยก็ได้ ซึ่งการโปรโมทจะเปรียบเสมือนการหากลุ่มลูกค้าวงกว้างที่อาจจะมีลูกค้าที่อยากซื้อ หรือแค่กำลังสนใจเท่านั้น แต่หากคุณใช้การโน้มน้าวอย่างเป็นระบบคุณอาจเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าที่แค่สนใจให้เป็นลูกค้าตัวจริงของคุณได้ 

การสร้างสรรค์สื่อ หรือคอนเทนต์

เทคนิคต่อไปคือ ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจในแบรนด์ของคุณมากขึ้นผ่านการสร้างสรรค์สื่อ หรือการสร้างคอนเทนต์ อย่างเช่น คอนเทนต์แนะนำ หรือให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่คุณกำลังขายอยู่ นอกจากนี้คุณสามารถสร้างคลิปวิดีโอที่เน้นความบันเทิงเพื่อให้ลูกค้าสนใจ และอยากติดตามแบรนด์สินค้าของคุณมากขึ้นได้ หรือคุณอาจใช้ Influencer เป็นตัวช่วยในการทำเทคนิคนี้ด้วยก็ได้ 

การสร้างความน่าเชื่อถือ

คุณสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ด้วยการให้ผู้ใช้สินค้าตัวจริงเป็นคนรีวิวสินค้า หรือให้ข้อมูลบนเว็บไซต์ว่าลูกค้าที่ใช้บริการของคุณมีใครบ้าง นอกจากนี้คุณควรแสดงจุดเด่นของแบรนด์สินค้าให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณได้ทราบว่า สินค้าและบริการของคุณมีคุณภาพ เชื่อถือได้ และโดดเด่นไม่แพ้แบรนด์สินค้าอื่นๆ

การกระตุ้นกลุ่มเป้าหมาย

เทคนิคสุดท้ายที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้นคือ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่าหากต้องซื้อสินค้าของคุณ คุณอาจทำโปรโมชั่น แคมเปญต่างๆ หรืออาจใช้กลยุทธ์ Upselling ในเทคนิคนี้ก็ได้ โดยความคุ้มค่าของสินค้า และราคาจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้มากกว่าหนึ่งชิ้น ซึ่งจะช่วยปิดการขาย และเพิ่มยอดขายได้จริงในท้ายที่สุด

สรุป

Marketing Funnel เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยให้คุณดึงดูดลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีระบบ คุณสามารถนำกลยุทธ์นี้ไปปรับใช้ได้กับธุรกิจทุกประเภท โดยในแต่ละขั้นตอนของ Funnel คุณสามารถวิเคราะห์ และใช้เทคนิคทางการตลาดที่เหมาะสมได้ เมื่อแผนกการตลาดดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งโอกาสที่จะเพิ่มยอดขาย และกลุ่มลูกค้าตัวจริงก็ไม่ไกลเกินเอื้อม 

หากคุณต้องการทำการตลาดออนไลน์ และอยากให้ Fastcommerz ช่วยแนะนำในเรื่องของการโปรโมทธุรกิจ เรามีบริการทำ Sale Page หลากหลายรูปแบบที่คุณสามารถใช้โปรโมทบนเว็บไซต์ และโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คได้ หากคุณสนใจสามารถติดต่อได้ตามข้อมูลด้านล่าง 

ที่ตั้ง: 573/104

รามคำแหง 39

แขวง พลับพลา เขต วังทองหลาง

กรุงเทพมหานคร 10310

ติดต่อสอบถาม:

084-509-5545

061-924-7449

อีเมล: fastcommerz@gmail.com

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

News Update