Fastcommerz

รู้ครบ Digital marketing คืออะไร การตลาดดิจิทัล ต้องทำอะไรบ้าง

ในยุคที่การตลาดดิจิทัลหรือ Digital Marketing เข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจหลายต่อหลายรายต้องขยับขยายช่องทางการทำการตลาดและการขายสินค้ามากขึ้นจากเดิมที่เป็นแบบออฟไลน์ก็จะก้าวเท้าเข้าสู่ความเป็นดิจิทัล

ประกอบกับพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนไปด้วยการเข้ามาของ Covid-19 ทำให้การทำการตลาดดิจิทัล ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออนไลน์ เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตของเราทุกคนจนกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่ธุรกิจทุกอย่างในปัจจุบันต้องเริ่มปรับตัวเข้าหามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเป็นทวีคูณ

แต่สำหรับธุรกิจไหนหรือใครที่ยังไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า Digital marketing ว่าคืออะไร และหากต้องการทำการตลาดดิจิทัล ให้ธุรกิจของคุณ ต้องทำอะไรบ้าง มีเทคนิคอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณ

Digital marketing คืออะไร ?

Digital Marketing (ดิจิตอลมาเกตติ้ง) คือ การทำการตลาดในรูปแบบใดก็ได้ เพื่อจุดประสงค์ในการเพิ่มยอดขาย เพิ่มลูกค้าให้กับธุรกิจ ผ่านการใช้งานเทคโนโลยี สื่อดิจิทัล หรือสื่อออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ฯลฯ เป็นช่องทางในการทำโฆษณาและปิดการขาย ซึ่ง Digital Marketing ถือว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทกับการใช้ชีวิตของผู้คน

โดยความสำคัญของการทำ Digital Marketing นั้นนอกจากจะช่วยในเรื่องของการเพิ่มยอดขาย เพิ่มลูกค้าให้กับธุรกิจแล้ว การทำ Digital Marketing ยังช่วยให้ธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ตลอดเวลา และไม่มีพรมแดน ผ่านการใช้กลยุทธ์ Digital Marketing ต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

Digital marketing ทำงานอย่างไร ?

Digital marketing หรือ การตลาดดิจิทัล ถ้าอธิบายตามหลักการก็คือวิธีในการทำการตลาดรูปแบบใดก็ตามผ่านช่องทาง ออนไลน์ ซึ่งทำให้วิธีการทำงานและกลไกในการเข้าถึงลูกค้าของ Digital marketing จำเป็นที่จะต้องอาศัยช่องทาง (Channel) ออนไลน์ต่าง ๆ หรือดิจิทัลเสมอ โดยช่องทางสำหรับการทำ Digital Marketing ที่เป็นที่นิยมและแพร่หลาย จะมีดังนี้

Social media

การใช้งาน Social Media ที่เราคุ้นเคยไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Line, TikTok, Twitter หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในการโฆษณา สร้างการรับรู้ให้กับธุรกิจของคุณ โดยข้อดีของการใช้งานช่องทางโซเชียลมีเดีย คือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและหลากหลาย เพราะมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก สามารถพูดคุยกับกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง ปิดการขายได้เร็วกว่าช่องทางอื่น

Content marketing

Content Marketing คือสิ่งสำคัญในการทำ Digital Marketing การตลาดออนไลน์ ในปัจจุบันมาก ๆ เพราะเป็นเทคนิคในการสร้างเนื้อหา (Content) ขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ซึ่งการทำ Content ที่มีประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของเรานั้น จะสามารถสร้าง Brand Awareness หรือ การจดจำแบรนด์ และสร้าง Engagement ได้ดี ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ของเรา และเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้อย่างง่ายดาย โดยวิธีการทำ Content Marketing ก็มีหลายรูปแบบ เช่น เขียนบทความ (Blog), โพสต์, วิดีโอ, ภาพนิ่ง หรือแม้แต่สื่อใหม่อย่าง Podcast ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของ Content Marketing ด้วยเช่นกัน

Website marketing

Website Marketing คือ การทำการตลาดผ่านช่องทางเว็บไซต์ โดยในปัจจุบันประเทศไทยมีทิศทางของการทำ Website Marketing มากขึ้น เพราะการทำเว็บไซต์ถือเป็นการสร้างบ้านให้กับธุรกิจของเราในโลกดิจิทัล หลายธุรกิจเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างเว็บไซต์ที่ดี สวยงาม กันมากขึ้น เพื่อเป็นเหมือนการสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของตัวเองในโลกออนไลน์ รวมถึงแบรนด์ใหญ่-กลาง หลายรายก็เลือกใช้ช่องทาง Website เป็นช่องทางหลักในการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และทำการตลาดให้แบรนด์ตนเองด้วย

SEO (search engine optimization)

SEO (search engine optimization) คือ กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดการเข้าชมของลูกค้า (Organic Traffic) จากผลการค้นหาในแต่ละ Keyword ให้เหมาะสมกับ Search Engine เช่น Google ถือเป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของธุรกิจคุณติดหน้าแรก หรืออันดับที่ดีที่สุด ของหน้าการค้นหาบน Google ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงของลูกค้าให้มากขึ้นในการทำ Digital Marketing

PPC (pay per click) advertising

PPC (pay per click) advertising คือการทำโฆษณาออนไลน์แบบ Search Engine Marketing หรือการซื้อพื้นที่หน้าแรกของ Google ในคำค้นหาต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์ของธุรกิจตนติดพื้นที่บนสุด หรือในหน้าแรก ซึ่งจะแตกต่างจากการทำ SEO ตรงที่การทำ PPC (pay per click) advertising เราจะต้องเสียเงินทุกครั้ง เมื่อมีลูกค้ากดเข้าเว็บไซต์จากหน้า Google ซึ่งจะคิดเงินตามจำนวนคลิก โดย PPC แม้จะเป็นวิธีที่ต้องใช้งบประมาณ แต่ก็เรียกว่าคุ้มค่าในการทำ Digital Marketing เหมาะสำหรับแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มการทำ Digital Marketing ในช่วงแรก

Digital marketing มีบทบาทกับธุรกิจในปัจจุบันอย่างไร

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคปัจจุบันการที่จะให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น Digital marketing ถือว่ามีบทบาทสำคัญไม่น้อย เพราะ Digital marketing ช่วยให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก พร้อมเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจในตลาดด้วยวิธีการต่างๆ ในการประชาสัมพันธ์บนโลก ดิจิตอลได้ตลอดเวลา ที่สำคัญการใช้กลยุทธ์ทาง Digital marketing ยังสามารถช่วยเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ธุรกิจต้องการได้อีกด้ว

ทำไม Digital marketing จึงสำคัญในยุคปัจจุบัน ?

Digital marketing หรือการทำ การตลาดดิจิทัล ถือว่าเป็นการทำการตลาดที่มีความสำคัญในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะมีความแตกต่างกับการทำการตลาดแบบออฟไลน์ (traditional marketing) อย่างเห็นได้ชัดทั้งในการใช้ช่องทางในการโฆษณา (Channel) การประยุกต์เอาเทคโนโลยี ออนไลน์ต่าง ๆ มาใช้ในการทำการตลาด เพื่อให้กลุ่มลูกค้าหรือ Audience ได้เข้าถึงธุรกิจของคุณมากขึ้น

ซึ่งการทำดิจิตอลมาเกตติ้ง มีความสำคัญอื่น ๆ ที่คุณต้องรู้ดังนี้

สื่อสารกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยฟีเจอร์ของช่องทางต่าง ๆ ที่ทันสมัยขึ้นทำให้การติดต่อสื่อสารของลูกค้ามายังธุรกิจทำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้การปิดการขาย การติดต่อสอบถามข้อมูลจากลูกค้าทำได้ดีขึ้น รักษาลูกค้าให้อยู่กับธุรกิจได้นานขึ้น

เข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก

ด้วยช่องทางออนไลน์ มีผู้ใช้งานในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก และไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ ทุกคนสามารถเข้าถึงธุรกิจของคุณได้ทั้งหมด ผ่านโลกดิจิทัลเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้การทำ Digital Marketing สามารถเข้าถึงผู้คนได้มากกว่าการทำการตลาดรูปแบบอื่น ๆ

สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง

เทคนิคบางอย่างของการทำโฆษณา Digital Marketing นั้นสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการทำโฆษณาได้ตั้งแต่แรก เช่น การยิงแอด facebook , ยิงแอด tiktok ฯลฯ ทำให้คุณสามารถกำหนดลักษณะเฉพาะ ที่อยู่ เพศ อายุ ความชอบ ของกลุ่มเป้าหมายได้ทันที ทำให้โฆษณาของคุณถูกส่งไปหาผู้ที่สนใจที่เลือกไว้ได้โดยตรง

ลดค่าใช้จ่ายในการทำ Marketing Campaigns

Digital Marketing เป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำ Marketing Campaigns ของธุรกิจคุณได้เป็นอย่างดี เพราะค่าใช้จ่ายในการทำงานด้านการตลาดออนไลน์สามารถเพิ่ม ลด และกำหนดค่าใช้จ่าย ในแต่ละส่วนได้อย่างละเอียด ทำให้ธุรกิจไม่ต้องเสียงบประมาณที่บานปลาย

ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

และการทำ Digital Marketing ที่ดีนั้น ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อธุรกิจของคุณเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น จำนวนลูกค้าก็จะเพิ่มขึ้นตามมาเป็นเรื่องปกติ ในขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดงบประมาณในการทำการตลาดได้ดีกว่าการทำการตลาดแบบออฟไลน์ เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น รายจ่ายลดลง ก็ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างกำไรได้มากกว่า ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

Digital marketing กับ Traditional marketing ต่างกันอย่างไรบ้าง

สิ่งที่ทำให้ Digital marketing กับ Traditional marketing มีความแตกต่างกันที่ชัดเจนก็คือในเรื่องของกลยุทธ์ และวิธีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังนี้

Digital marketing จะประชาสัมพันธ์ ดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ ให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้นทางโลกออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดียต่างๆ การยิง Ads การค้นหาผ่าน Google การส่งข้อมูลโปรโมชั่นที่น่าสนใจผ่าน Email เป็นต้น

Traditional marketing จะประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักผ่านช่องทางออฟไลน์ กล่าวคือเป็นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนังสือพิมพ์ ป้ายแปะประกาศ ป้ายโฆษณาตามสถานที่ต่างๆ ที่ผู้คนสัญจรผ่านไปมา หรือแม้กระทั่งการออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์ และการโปรโมทผ่านวิทยุ โทรทัศน์อีกด้วย

Digital marketing กับ Online marketing ต่างกันอย่างไรบ้าง

Digital marketing กับ Online marketing ถึงตรงนี้หลายคนน่าจะสงสัยกันแล้วว่า จริง ๆ แล้ว 2 คำที่ดูเหมือนมีความหมายเดียวกันนี้ มีความเหมือนหรือต่างกันหรือไม่ ซี่งจริง ๆ แล้วทั้ง 2 คำมีความแตกต่างกันอยู่ แต่จะขอสรุปให้เข้าใจง่ายที่สุด ดังนี้

Digital marketing คือการทำการตลาดผ่านช่องทางสื่อดิจิทัล โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ มาเป็นเครื่องมือในการทำการตลาด เช่น เครือข่าย internet เว็บไซต์ สมาร์ทโฟน หรือ เทคโนโลยี นวัตกรรมอื่น ๆ ซึ่งไม่มีสูตรตายหรือสูตรสำเร็จในการทำให้ประสบความสำเร็จ แต่ Online Marketing คือ การทำการตลาดในสื่อออนไลน์ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเน้นรูปแบบและวิธีการในการเข้าถึงผู้คนมากกว่า ให้ความสำคัญกับกระบวนการ ที่มีสูตรตายตัวอยู่แล้วในการทำให้ประสบความสำเร็จ

อยากเริ่มทำ digital marketing ต้องทําอะไรบ้าง มีช่องทางไหนบ้าง

หากพูดถึงช่องทางในการทำ Digital Marketing นั้นหลายคนน่าจะนึกถึงช่องทางที่ได้รับความนิยม เช่น Facebook, Line, Twitter, Website, Email ฯลฯ แต่จริง ๆ แล้วการทำ Digital Marketing นั้นยังมีเทคนิคในการทำงาน รวมถึงช่องทางอื่น ๆ ที่มากกว่านั้น ดังนี้

1. Paid search

การซื้อพื้นที่โฆษณาบนหน้า Search Engine อย่าง Google ความหมายจะคล้ายกับการทำ PPC คือธุรกิจสามารถซื้อพื้นที่โฆษณาเว็บไซต์บนหน้าแรกของ Google ใน Keyword ที่ต้องการ เพื่อช่วยให้ผู้คนที่ค้นหาพบเจอเว็บไซต์ของเราได้ง่ายและเร็วมากขึ้น

2. SEO (Search engine optimization)

การปรับแต่งเว็บไซต์ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ให้สามารถถูกค้นหาเจอบนหน้าแรกของ Search Engine ของ Keyword ที่ต้องการ ซึ่งจะแตกต่างจะการทำ Paid Search ตรงที่การทำ SEO จะไม่มีเรื่องของการใช้เงิน หรือค่าใช้จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการทำการตลาดที่เน้นความ Organic ที่ผลลัพธ์ยั่งยืนในระยะยาว เป็นอีกหนึ่งการทำ Digital Marketing ที่ได้รับความนิยม

3. Content marketing

การสร้างสรรค์ Content เพื่อเผยแพร่ลงในช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ หรือ โซเชียลมีเดีย เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึง รับรู้ ผลิตภัณฑ์ของธุรกิจคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นส่วนช่วยในการสร้างการตัดสินใจไปจนถึงปิดการขายให้ลูกค้า โดย Content สามารถเป็นได้ทั้ง เขียนบทความ (Blog), โพสต์, วิดีโอ, ภาพนิ่ง, Infographic ฯลฯ เป็นเทคนิคการทำ Digital Marketing ที่กำลังมาแรงในปัจจุบันและในอนาคต และยังเป็นเทคนิคที่สำคัญในการสร้างการรับรู้ให้กลุ่มลูกค้าตาม Customer Journey หรือ Marketing Funnel ด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม : inbound marketing

4. Social Media Marketing

เป็นช่องทางในการทำ Digital Marketing ที่ถูกนึกถึงเป็นลำดับแรก ๆ สำหรับ Social Media Marketing หรือ การใช้งาน Social Media ที่เราคุ้นเคยไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Line, TikTok, Twitter หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในการโฆษณา สร้างการรับรู้ให้กับธุรกิจของคุณ ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและหลากหลาย

5. Paid Media (Online advertising)

Paid Media (Online advertising) คือการซื้อโฆษณาออนไลน์ หรือบูสต์โพสต์ตามช่องทางออนไลน์ สื่อดิจิทัลทุกรูปแบบ เช่นการยิงแอด Facebook, ยิงแอด Tiktok, ยิงแอด Line ฯลฯ เป็นการใช้เงินซื้อโฆษณาแล้วยิงไปหากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ วิธีนี้ช่วยให้การเข้าถึงลูกค้าของธุรกิจคุณทำได้อย่างรวดเร็วและถูกจุด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เป็นเทคนิคในการทำ Digital Marketing ที่ได้รับความนิยมจากธุรกิจทุกขนาด

6. Email marketing

Email Marketing คือ การส่งอีเมลไปหากลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าของธุรกิจคุณ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดกระตุ้นให้เกิด Action อะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างยอดขาย การโปรโมตสินค้าใหม่ การสร้างการรับรู้ให้แก่ผลิตภัณฑ์ การจัดโปรโมชั่น แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ หรือช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์

7. Affiliate marketing

Affiliate Marketing คือเทคนิคในการทำ Digital Marketing ที่จะทำให้ลูกค้า 1 คน สามารถนำลิงก์สินค้าและบริการต่างๆ จากเว็บไซต์ มาแนะนำเพื่อส่งคนไปซื้อสินค้าบนเว็บไซต์นั้น แล้วตัวเราจะได้ส่วนแบ่ง (Commission) หรือสิทธิประโยชน์อะไรบางอย่างจากธุรกิจเจ้าของกิจกรรม เป็นเหมือนการให้ลูกค้าเก่าช่วยหาลูกค้าใหม่ ช่วยทำให้ธุรกิจของเราสามารถหาลูกค้าใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเปลืองงบประมาณในการทำโฆษณาเป็นจำนวนมาก

8. Mobile marketing.

Mobile marketing ถือเป็นเทคนิคการทำ Digital Marketing ผ่านการใช้อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับสื่อออนไลน์เหมือนในหลาย ๆ ข้อที่ผ่านมา Mobile Marketing มีกระบวนการทำงานที่หลากหลาย เช่น การส่ง SMS, การ Call หาลูกค้า เพื่อจุดประสงค์ในการแจ้งข่าวสาร หรือเสนอโปรโมชัน สิทธิพิเศษต่าง ๆ วิธีนี้เป็นการส่งสารหาลูกค้าโดยตรง เข้าถึงคนได้จำนวนมาก เหมาะสำหรับแบรนด์ใหญ่ที่มีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ระดับประเทศ

9. Marketing automation

Marketing automation คือเทคโนโลยีที่ช่วยให้การทำการตลาดทำได้ ผ่านเทคโนโลยีอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ลดความผิดพลาด ให้การทำ Digital Marketing เช่นซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ทำให้การทำการตลาดเป็นเรื่องอัตโนมัติที่เราตั้งค่าได้ โดยตัวอย่างของ Marketign Automation เช่นการใช้ซอฟต์แวร์ MailChimp สำหรับการส่งอีเมลจำนวนมาก ด้วยระบบอัตโนมัติ เพื่อการทำ Email Marketing จากที่แต่เดิมเราต้องจ้างคนมาพิมพ์ส่งที่ละอีเมล ซึ่งช้า เสียงบประมาณ และมีข้อผิดพลาดเยอะ

เครื่องมืออะไรบ้าง ที่น่าสนใจในการทำ Digital marketing ในปัจจุบัน

ปัจจุบันในการทำ Digital Marketing มีเครื่องมือที่น่าสนใจที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ทั้งรวดเร็ว ลดข้อผิดพลาด ประหยัดงบประมาณเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเครื่องมือแต่ละตัวก็จะมีหน้าที่การทำงานที่แตกต่างออกไป โดยเราจะเรียกทั้งหมดว่า “Martech” Marketing Technology หรือเทคโนโลยีสำหรับการทำการตลาด ที่ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมือประเภทซอฟต์แวร์ โดยชื่อของเครื่องมือที่น่าสนใจ เช่น

  • Google analytics
  • Google tag manager
  • Hotjar
  • MailChimp
  • Active Campaign
  • Facebook page, business, ads manager
  • Google Adwords
  • WordPress
  • Hubspot
  • Ahrefs
  • GeckoBoard
  • Buffer
  • Airtable
  • Viral Loops
  • Yoast
  • Slack
  • Trello
  • Canva Business
  • และอื่น ๆ อีกมากมาย

สรุป

Digital Marketing หรือการตลาดดิจิทัล นั้นคือวิธีการทำการตลาดที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคปัจจุบัน ที่โลกของเราได้เข้าสู่ความเป็นดิจิทัล และมีทิศทางที่จะเติบโตมากขึ้นอีกเป็นเท่าทวีในอนาคตอันใกล้

ดังนั้นสำหรับธุรกิจใดที่ยังไม่เริ่มต้นเข้าสู่การทำการตลาดดิจิทัล ช่วงเวลานี้คือโค้งสุดท้ายแล้วที่คุณจะเริ่มก้าวเท้าเข้ามา เพราะถ้าหากช้าเกินไปคุณจะไม่มีทางตามคู่แข่ง หรือเข้าถึงผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมในการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์ได้อีกต่อไป

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดดิจิทัลฟรี! ช่วยปูพื้นฐานให้ธุรกิจของคุณเริ่มต้นเข้าสู่โลกแห่ง Digital Marketing ได้เลย

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

News Update