การปิดขายออนไลน์ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก สร้างกำไรเข้าสู่ตัวแบรนด์ ทางนักการตลาดหมั่นศึกษาวิจัยความต้องการของผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง เพื่อรังสรรค์สินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ พร้อมดึงดังพวกเขาเหล่านี้มาเป็นลูกค้าประจำในอนาคต พร้อมสร้างรากฐานในการเจาะตลาดหากลุ่มเป้าหมายในช่องทางใหม่ ๆ อีกด้วย
งทำให้มี 8 เทคนิคการขายออนไลน์ ที่ช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทาง Fastcommerz เว็บ Sale Page สำเร็จรูปจึงมาแบ่งปันคอนเทนต์การปิดการขายออนไลน์ได้ในบทความนี้
ทำไมเราถึงต้องรีบปิดงานขาย สำคัญขนาดไหน?
ความสำคัญการปิดการขายออนไลน์ คือ การเสนอคอนเทนต์ที่มีข้อมูลประกอบการโปรโมท โฆษณา รายละเอียดผลิตภัณฑ์ ช่องกดจำนวนซื้อ พร้อมมีช่องทางชำระเงินที่จบภายในเว็บหรือแอปเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้จะซื้อ สามารถดำเนินการธุรกรรมการช้อปปิ้งโดยไม่มีสิ่งกีดขวางมารบกวนการช้อปปิ้งบนโลก E-commerce สะดวก รวดเร็ว เพิ่มจุดแข็งให้เหนือกว่าคู่แข่ง และสร้างยอดขายแบรนด์ของคุณให้ธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เกิดอะไรขึ้นหากไม่สามารถปิดการขายได้เร็วพอ
สาเหตุที่คุณปิดการขายไม่สำเร็จ สืบเนื่องมาจากปัญหาที่ “แบรนด์” ไม่สามารถสื่อสารการนำเสนอสินค้าบริการให้ลูกค้าเข้าใจได้ โดยมีต้นเหตุมาจาก 5 ประเด็นหลัก ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์คุณไม่ช่วยแก้ไขปัญหาสิ่งที่ลูกค้ากำลังประสบได้อย่างตรงจุด
- รายละเอียดข้อมูลสินค้าบริการไม่กระชับ ไม่ชัดเจน กำกวมต่อการใช้งาน ทำให้ลูกค้าเกิดข้อสงสัยมากกว่าความเชื่อมั่นที่จะลองใช้บริการ
- สินค้าดีแต่การ Tie-in คุณแย่ ไม่ช่วยให้คนซื้อมีความสนใจที่จะซื้อบริการของคุณเลย
- เราไม่ได้ใช้กลยุทธ์เป็นตัวเร่งให้เกิดการซื้อขาย อย่างการทำแผน Fomo , การใช้ Message CTAs ให้ผู้ดูเกิดความสนใจซื้อสินค้า
- ธุรกิจคุณมีฐานลูกค้าที่ไม่หนาแน่นพอ ทำให้ลูกค้ารายใหม่อาจคิดว่าธุรกิจคุณเป็นแบรนด์ที่ไม่มีประสิทธิภาพได้
1.เทคนิคการขายของออนไลน์ให้ได้ลูกค้ารับข้อเสนอสุดพิเศษ
คือการใช้คำสื่อสารเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจให้พวกเขาเกิดการรับรู้ และดึงดันพวกเขามีส่วนร่วมกับกิจกรรมกับแบรนด์ให้ได้ โดยใช้บริบทกำหนดระยะเวลาแคมเปญ ยกตัวอย่างเช่น นี่คือโอกาสสุดท้ายที่คุณจะได้รับราคาพิเศษ , ลดวันสุดท้ายวันนี้วันเดียวเท่านั้น หรือสินค้านี้หมดแล้วหมดเลยไม่มีผลิตเพิ่มอีก เป็นต้น ที่นอกจากจะได้สานความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ามากขึ้น ยังสามารถปิดการขายออนไลน์ได้มากขึ้นอีกด้วย
2.สรุปการขายให้กับลูกค้า เพื่อให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีมากขึ้น
การทำเทคนิคการขายให้กับบริโภคในโลกออนไลน์ในปัจจุบัน ต้องเข้าใจพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ของพวกเขาตลอดเวลา ด้วยสื่อที่พวกเขาใช้ส่วนใหญ่จะดูผ่านอุปกรณ์พกพาอย่าง สมาร์ทโฟน ทำให้ผู้บริโภคนิยมดูข้อมูลที่ถูกสรุปในหน้าเดียวกันส่วนใหญ่ ทำให้นักการตลาดต้องใช้เทคนิคการปิดการขายด้วยเว็บหน้าเดียว ที่มีคุณสมบัติสรุปปิดการขายของออนไลน์ที่จบในหน้าเดียวทั้งรายละเอียดสินค้า ลักษณะ และรวมไปถึงช่องทางชำระเงิน โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าถัดไปให้เสียเวลา เช่น หากเครื่องชงกาแฟ 2 เครื่อง ทางระบบจัดทำยอดสรุป รวมแพจเกจในรายการ พร้อมประมาณวันจัดส่งแบบคร่าวแบบอัติโนมัติ
3.การปิดแบบ Sharp Angle Closed อยากขายของต้องมีการข้อตกลง
การปิดการขายแบบ Sharp Angle Closed เป็นกลยุทธ์การทำสัญญาให้ผู้ซื้อทำตามข้อตกลงซื้อสินค้าทันที เนื่องจากบางสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าราคาที่สูง หรือมีกระบวนการใช้งานที่ซับซ้อน ทำให้ทางลูกค้าที่มีความต้องการทำซื้อขาย ได้ทำการเจรจาขอต่อราคา ซึ่งเมื่อผู้ซื้อมีจุดประสงค์ความต้องการสินค้า ทางแบรนด์สามารถตอบสนองความต้องการด้วยการทำใบยืนยันทำการตกลงซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อรีบปิดการขายออนไลน์ให้เร็วที่สุด
4.ปิดการขายด้วยการถามว่าสินค้านี้ตอบโจทย์ลูกค้าไหม
บางครั้งการปิดการขายให้กับลูกค้าที่ทำการซื้อขายเสร็จเรียบร้อย ทางแบรนด์สามารถเสนอให้บริการหลังขายแก่ลูกค้า เพื่อซักถามการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการนี้ มีคุณประโยชน์ที่ช่วยตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้มากแค่ไหน ซึ่งหากลูกค้าให้ข้อคิดเห็นการใช้บริการหลังปิดการขายออนไลน์ จะทำให้แบรนด์ทราบจุดเด่นและจุดด้อยของตัวสินค้าได้ดี พร้อมได้รับข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวจริง และนำข้อมูลนี้ไปพัฒนาตัวสินค้าในอนาคตได้ดียิ่งขึ้น
5.นำเสนอคอนเทนต์การโปรโมทสินค้าที่เน้นความเป็นจริง
การโปรโมทสินค้า หรือโฆษณาคุณสมบัติของตัวผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูด เพื่อปิดการขายออนไลน์ได้รวดเร็วมากขึ้น แบรนด์ควรนำเสนอสินค้าบริการเป็นไปตามความเป็นจริง สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตัว โดยบริบทการโชว์คอนเทนต์ ไม่ควรใช้โทนเนื้อหาที่เกินความเป็นจริง เวอร์วัง หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะผู้ชมอาจต้องข้อสงสัยของตัวสินค้า และอาจทำให้แบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือในกลุ่มผู้บริโภคได้ ดังนั้นการเสนอด้วยความจริง จริงใจ สามารถปิดการขายซื้อใจให้ผู้ซื้อแบบกำหมัด
6.ปิดการขายออนไลน์ด้วย เทคนิค Fomo
การปิดการขายออนไลน์สามารถใช้เทคนิค FoMo (Fear Of Missing Out) คือการใช้ภาวะอารมณ์กลัวตกเทรนด์ของมนุษย์มาเป็นเครื่องมือใช้ประโยชน์การทำการตลาดออนไลน์ โดยวิธีการทำ Fomo ส่วนใหญ่ มุ่งเน้นการออกแบบปุ่มคลิก CTA ที่มีการใช้สีเข้มบนตัวอักษรที่กระตุ้นการซื้อ-ขายอย่าง ห้ามพลาด , ลด 60%ภายในวันนี้เท่านั้น เป็นต้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าเกิดการตระหนัก และอยากครอบครองมูลค่าในราคาที่ต่ำกว่าราคาดั้งเดิม โดยวิธี Fomo นี้ช่วยกระจายการขายสินค้าพร้อมปิดการขายออนไลน์และออฟไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
7.รู้จักคู่แข่ง นำจุดแข็งของเขา ไปพัฒนาจุดอ่อนให้โดดเด่น
การทำให้แบรนด์ของคุณมีจุดแข็งและดูแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง อันดับแรกคุณต้องศึกษาตัวตนของแบรนด์ฝั่งตรงข้ามว่า แบรนด์ของเขา มีจุดเด่นสำหรับการใช้เทคนิคการขายอย่างไรบ้าง โดยวัดดูกลยุทธ์ดั้งเดิมได้จาก จุดแข็ง (Strength) ภายในตัวแบรนด์มีดีอะไรถึงสามารถสร้างจุดขายให้กับลูกค้า , จุดอ่อน (Weakness) จุดด้อยภายในตัวแบรนด์ที่ยังต้องปรับปรุงกลยุทธ์ , โอกาส (Opportunity) สภาพแวดล้อมภายนอกของแบรนด์คู่แข่งมีปัจจัยใดบ้างที่ใช้เป็นประโยชน์ และ อุปสรรค (Threat) ภายนอกแบรนด์คู่แข่งที่ขัดขวางการเติบโต เป็นต้น
8.อย่าลืม Follow Up ลูกค้า เพื่อสานสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้น
อีกหนึ่งเทคนิคปิดการขายที่มีประสิทธิภาพคือ การ Follow Up ลูกค้า สำหรับวางแผนการติดตามการใช้สินค้าหรือบริการอย่างสม่ำเสมอ จัดเป็นวิธี CRM (Customer Relationship Management) เพื่อสานสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าให้ทราบต้องการหลังการปิดการขายได้เต็มที่ หรือเมื่อลูกค้าถามข้อสงสัย ทีมงานสามารถติดตามให้คำตอบได้ตลอดเวลา อีกทั้งงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ช่วยให้ทีมงานเก็บข้อมูลสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ต่อไปได้
ให้ Sale Page (เซลเพจ) ของคุณเป็นตัวช่วย Up Selling
การปิดขายออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องใช้ระบบซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์การทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ Sale Page เว็บไซต์สำเร็จรูปจาก Fastcommerz พร้อมจัดโปรโมทขายของแบบ Up Selling ที่พร้อมนำเสนอการขายได้ทั่วทุกแพลตฟอร์มได้ครบวงจรภายในช่องเดียว หรือการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องอย่าง Cross Selling จัดเป็นระบบสนับสนุนกระตุ้นการขายแก่ผู้รับชมมากขึ้น เพียงแค่ใช้เซลเพจ ระบบการตลาดแบบ Marketing Automation ที่ครบวงจร
สรุป
หากจะปิดการขายสินค้าหรือบริการแบบสม่ำเสมอ ทางแบรนด์ต้องรู้จักปรับตัวและประยุกต์กลยุทธ์ เทคโนโลยีได้ตลอดเวลา เพราะเทรนด์การตลาดออนไลน์ไม่เคยหยุดนิ่งไว้ในชั่วขณะ ดังนั้นแบรนด์ต้องใฝ่หาพร้อมศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคตลอดเวลา เพื่อทำให้กลไกลการปิดการขายออนไลน์สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง
