ในปัจจุบัน ทุกคนคงได้ยินวิวัฒนาการใช้อินเทอร์เน็ตโลกเสมือนกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Metaverse หรือเหรียญเงินดิจิตอล NFT ให้เป็นตัวสร้างยอดขายธุรกิจเติบโตอีกหนึ่งช่องทาง โดยการทำคอนเทนต์เพื่อใช้สื่อที่กล่าวมาข้างต้น ต่างต้องผ่านเครือข่ายผู้ให้บริการเน็ตเวิร์กเวอร์ชัน web 3.0 เสมอ
แล้ว web 3.0 คืออะไร ช่วยเสริมสร้างรายได้ของทุกคนอย่างไรบ้าง ทาง Fastcommerz จะมาเล่าความเป็นของอินเทอร์เน็ตยุค 3 คืออะไรในบทความนี้
ประวัติและการพัฒนาของเว็ปไซต์ตั้งแต่อดีต
จุดเริ่มต้นของ web3.0 มีรากฐานต้นกำเนิดมาจาก การพัฒนาของ web 1.0 และ 2.0 ที่สร้างปรากฎการณ์ผลิตสื่อคอนเทนต์ออนไลน์ได้หลากหลายมิติมากขึ้น แล้ว เว็บไซต์ ที่มีการสามารถปรับพฤติกรรมให้เข้ากับผู้ใช้ อยู่ในยุคใดบ้าง สามารถอ่านความเป็นมาได้ในหัวข้อถัดไป
Web 1.0 (ค.ศ. 1990 – 2005)
web 1.0 คือ ผู้ให้บริการเน็ตเวิร์กรุ่นที่ 1 ของการกำเนิดเว็บไซต์ WWW. (World Wide Web : W3C) ที่ถูกพัฒนาโดย ทิม เบอร์เนอส์ ลี การรับ-ส่งข้อมูลเจ้าของเว็บไซต์อย่างเช่น Google จะเป็นผู้ผลิตเนื้อหาและโฆษณาการสร้างคอนเทนต์เพื่อแสวงหากำไร ส่วนของผู้รับชมจะสามารถรับรู้ อ่าน เสพสื่อเพื่อความบันเทิงได้อย่างเดียว
Web 2.0 (ค.ศ. 2006 – ปัจจุบัน)
web 2.0 คือ ผู้ให้บริการเน็ตเวิร์กรุ่นที่ 2 เป็นเว็บที่ได้รับการพัฒนาจาก Web 1.0 โดยเจ้าของเว็บไซต์ได้ทำการเปิดช่องทางให้ผู้รับชมสามารถรสื่อสารถาม-ตอบได้ภายในโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook , Instagram , Youtube และช่องเน็ตเวิร์กอื่นๆ มาเป็นตัวกลางให้พื้นที่ชุมชน (Community) สื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดบนคอนเทนต์ออนไลน์ได้อย่างอิสระ
Web 3.0 เน็ตเวิร์กเปิดโลกเสมือนจริง คืออะไร
web 3.0 คือ ผู้ให้บริการเน็ตเวิร์กรุ่นที่ 3 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเว็บไซต์กับแอปพลิเคชันผ่านเครือข่าย ให้มีการสร้างคอนเทนต์ให้ดูเสมือนจริงมากขึ้น รูปแบบการนำเสนอข้อมูล ทั้งเจ้าของเว็บไซต์และ User ทุกคน สามารถผลิตและแสวงหากำไรจากการทำคอนเทนต์ใน web 3ได้สมบูรณ์ พร้อมนำทรัพย์สินดิจิตอลจากการทำกิจกรรม ในคอนเทนต์ประเภทงานเขียน เกมส์ มาเป็นตราเงินใช้จริงได้
ข้อดีของ Web 3.0
ประโยชน์การใช้บริการเน็ตเวิร์ก web 3.0 มีอะไรบ้าง มี 4 ข้อดี ดังนี้
- ข้อมูล User ทุกคนได้รับความคุ้มครองการสนวนข้อมูลส่วนตัวเสมอ
- web 3.0 เปิดโอกาสให้ User สามารถสร้างยอดขายผ่านการผลิตคอนเทนต์ของตัวเอง
- นวัตกรรม Metaverse ช่วยสนับสนุนธุรกิจสื่อ AR/VR ให้ได้รับความนิยมมากขึ้น
- จุดเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กอยู่ภายใต้เซิร์ฟเวอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง
ข้อจำกัดของ Web 3.0
ข้อจำกัดการใช้บริการของ web 3 คือดังนี้
- User ส่วนใหญ่ยังยึดติดการใช้งาน web 2.0 อยู่ ทำให้ความเชื่อถือการใช้งาน web 3.0 ยังไม่เป็นที่นิยม
- เทคโนโลยีที่สามารถทำงานร่วมกับ web 3.0 ยังมีน้อยอยู่ ทำให้ User กลุ่มใหญ่ยังไม่เข้าถึงการทำงานเน็ตเวิร์กรุ่นที่ 3 ซักเท่าไหร่
- ฟีเจอร์เครือข่าย กระจายศูนย์ข้อมูล (Decentralized)ของ web3.0 มีข้อจำกัดการใช้งานที่ต้องรอ โหนด (Node) ทั่วเครือข่ายอนุญาตทำการอนุมัติก่อนเสมอ
Feature เด่นๆของ Web 3.0 มีอะไรบ้าง
- Decentralized ระบบศูนย์กระจายข้อมูลที่ User ทุกคนสามารถ ปกป้องข้อมูลในส่วนรายละเอียดแต่ละประเภทในการใช้บริการแอปพลิเคชันหรือผู้ให้บริการเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัย
- BlockChain Based กาารสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ จะไม่ต้องรอการอนุมัติตัวกลาง เพราะ BlockChain เป็นระบบคอยคุ้มครองการทำธุรกรรม และตัวสอบทรัพย์สินทางปัญหาได้อย่างแม่นยำ
- AI (Artificial Intelligence) ใน web 3.0 สามารถตีความข้อมูลได้ถูกต้องมากขึ้น
- Cryptocurrency หรือ เหรียญเงินดิจิตอล จะได้รับความสนใจในการลงทุนของผู้บริโภคมากขึ้น
องค์ประกอบของ web3.0
ส่วนประกอบหลัก ของ web3.0 มี 2 ส่วนอยู่ด้วยกัน ได้แก่
- Semantic Web ระบบดิจิตอลนำเสนอโครงสร้างเว็บไซต์แบบเป็นลำดับชั้น (Hierachy)
- AI (Artificial Intelligence) เป็นอัลกอริทึมที่ตีความ วิเคราะห์ ประเมิน ประมวลผลข้อมูลจากดิจิตอลมาเป็น Fact โดยรวมได้อย่างแม่นยำ
web3.0ส่งผลกับธุรกิจในอนาคตอย่างไร
ในปัจจุบัน Web3.0 ส่งผลให้ธุรกิจในปัจจุบันมีความเข้าถึงผู้ใช้ได้งานง่ายมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเทคโนโลยีของ Matech มีระบบการจัดการแบบ Automatic ให้มนุษย์สามารถวางโครงสร้างระบบเพื่อให้การทำงาน เก็บข้อมูลแล้วนำมาเป็น Performance ได้อย่างรวดเร็ว โดยตัวอย่าง web3.0 จะมี Social Media, Web Browser, App Banking, eCommerce และอื่น ๆ
Web 3.0 เกี่ยวข้องอะไรกับ Crypto
web 3.0 มีเหรียญอะไรบ้าง ในวงเงินสกุล Crypto โดยส่วนใหญ่จะมี 5 สกุลเหรียญดิจิตอลหลักๆ ดังนี้
- Helium (HNT)
- Chainlink
- Filecoin (FIL)
- Audius
- Flux (FLUX)
- Theta (THETA)
ซึ่งบทบาทเหรียญดิจิตอลใน web 3.0 จะมีบทบาทให้ user มีส่วนร่วมในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากคอนเทนต์โดยใช้ Crypto เป็นตัวดำเนินรายได้บนโลกออนไลน์ จะทำให้ User แสวงหากำไรมากขึ้นอีกหนึ่งช่องทาง
เทียบความแตกต่าง Web 2.0 Vs Web 3.0
ความแตกต่างระหว่าง Web 2.0 Vs Web 3.0 มีดังนี้
- บริการให้สื่อ Content
- web 2.0 ผู้บริการเว็บไซต์และผู้ใช้งานสามารถสร้างคอนเทนต์ได้
- web 3.0 ทุกคนสามารถสร้างคอนเทนต์ได้
- การรับ-ส่ง Content
- web 2.0 ผู้บริการเว็บไซต์เปิด Community ให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถแบ่งปันความคิดเห็นข้อมูลได้
- web 3.0 ทุกคนสามารถสื่อสารได้อย่างเสรี โดยไม่มีตัวกลางอย่างผู้ให้บริการเว็บไซต์ดำเนินเรื่องอนุมัติ
- การใช้งาน
- web 2.0 โฟกัสการใช้ Web apps ในการสร้างคอนเทนต์
- web 3.0 โฟกัสการใช้ Smart Apps และ Ai ในการขับเคลื่อนผลิตคอนเทนต์
- กราฟิก
- web 2.0 มีรูปแบบสื่อ 1D-2D
- web 3.0 มีรูปแบบสื่อ 3D เป็นต้นไป
- แหล่งรายได้
- web 2.0 สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากผู้ใช้งาน
- web 3.0 ต้องดำเนินขอความยินยอมผู้ใช้รายบุคคลก่อนนำข้อมูลไปดำเนินใช้ต่อ
สรุป
แม้รูปแบบการใช้งานของ web 3.0 จะเป็นเว็บไซต์ที่ยังไม่พบเห็นในโลกออนไลน์ปัจจุบัน แต่ในยุคที่ไม่ไกล web3 คือช่องทางแสวงหากำไรดิจิตอลรูปแบบใหม่ ที่ทุกคนสามารถเป็น Content creator หรือเป็น User ที่หารายได้จากการลงทุนเหรียญ Cryto มาเป็นรายได้เสริมอีกหนึ่งเครือข่ายที่ไม่ควรพลาด